สะพานแดง จุดชมวิวปลาโลมา สะพานแดง จุดชมวิวปลาโลมา ตั้งอยู่ที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจุดชมวิวริมชายฝั่งทะเล ชมพระอาทิตย์ตก ไฮไลท์อยู่ที่สะพานไม้สีแดงโดดเด่นที่ทอดยาวขนานกับชายทะเลความยาวถึง 700 เมตร สะพานแดงมีสร้างโดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาคร เหตุผลที่ทาสีสะพานเป็น สีแดง เพราะแต่เดิมหมู่บ้านที่เป็นที่ตั้งของสะพานแดง มีชื่อว่า “หมู่บ้านแดง” ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ที่มีลมหนาวเข้าสู่อ่าวไทย จะพบกับฝูงปลาโลมาเข้ามา ช่วงเย็นบรรยากาศดี มีร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม มีกากหมูขายถ้วยละ 20 บาท สำหรับเป็นอาหารของนกนางนวล นกเยอะ บินตลอดเวลา แนะนำมาช่วงหลัง 4 โมงเย็น อากาศดีลมพัดเย็นสบาย

ครัวกันเอง ป้าจวน ครัวกันเอง ป้าจวน ตั้งอยู่ที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ติดกับสะพานแดง ที่เป็นจุดชมวิวปลาโลมา ร้านเล็กๆ มีโต๊ะภายในร้านประมาณ 10 โต๊ะ ตัวร้านติดทะเล ลมพัดเย็นสบาย  อาหารอร่อย รสชาติจัดจ้าน อาหารทะเลสด สะอาด ราคาไม่แพง บางรายการอาหารปลา กุ้ง ปู คิดตามน้ำหนัก บริการเป็นมิตร กันเอง เหมือนคนในครอบครัว เมนูแนะนำ : ผัดฉ่า, หอยแครงลวกน้ำจิ้มซีฟู้ด, ปลาทูต้มยำ

ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สมุทรสาคร ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่ริมปากอ่าวแม่น้ำท่าจีน ณ ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร อันเป็นท่าน้ำที่จอดทอดสมอของบรรดาเรือประมงและเรือเดินทะเลทั้งหลาย ทำให้ปากอ่าวแห่งนี้อบอวลไปด้วยบรรยากาศของริมทะเลอย่างแท้จริง ด้วยอาชีพการประมงซึ่งต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของกระแสคลื่นลม บางครั้งถึงกับเกิดอันตรายกับชีวิต เสด็จเตี่ยหรือเสด็จในกรม (กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์) แม่ทัพเรือในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อราว 100 กว่าปีที่แล้วจึงเป็นที่พึ่งทางใจ ผู้คนทั้งหลายได้ร่วมกันสร้างศาลประดิษฐานพระรูปของพระองค์ไว้สักการะบูชา โดยเฉพาะชาวเรือจะให้ความเคารพเป็นอย่างยิ่ง บริเวณศาลได้สร้างสมอเรือแบบต่างๆวางอยู่ตามแนวรั้ว เพื่อระลึกถึงคุณูปการของพระองค์ที่มีต่อกองทัพเรือและการป้องกันประเทศทางทะเลในยุคนั้น หนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่ที่ ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร บริเวณวัดศรีสุทธาราม หรือ วัดกำพร้า หมู่ที่ 9 ผู้ริเริ่มโครงการคือ พลเรือโทเจือ เกษเสถียร ร่วมกับศิษย์เก่าโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย พ่อค้าประชาชน และชาวประมงในจังหวัดสมุทรสาคร ทำการหล่อรูปเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ความสูง 1.66 เมตร และนำมาประดิษฐานไว้ที่หน้าพระอุโบสถวัดศรีสุทธาราม เมื่อวันที่ 19ธันวาคม 2529ส่วนตำหนักนั้นเริ่มก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2531 โดยมี นายอาทร ญาณสิทธิ์ เป็นประธานกรรมการก่อสร้างแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ.2534 หลังจากก่อสร้างเสร็จได้อัญเชิญพระรูปจากหน้าพระอุโบสถเข้าสู่ตำหนัก เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2534

วงเวียนท่าฉลอม วงเวียนท่าฉลอม ตั้งอยู่ใน ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นเหมือนศูนย์กลางของคนคนในชุมชน ด้วยบริเวณรอบวงเวียนจะเต็มไปด้วยร้านค้าร้านขายและร้านอาหารมากมาย รวมถึงอาหารทะเลสดที่ขึ้นมาจากเรือประมง ราคาไม่แพง มีตลาดนัดทุกวัน (ยกเว้นวันเสาร์) พื้นที่ตรงกลางของวงเวียนถูกตั้งด้วยหอนาฬิกาที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์สอดคล้องกับบ้านเรือนรอบข้างเป็นอย่างดี หน้าปัดนาฬิกาเป็นไฟ LED เพิ่มความทันสมัยและการมองเห็นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และรอบๆหอนาฬิกายังทำเป็นสวนย่อมเล็กๆตกแต่งประดับต้นไม้สวยงาม เป็นพื้นที่เดินหรือวิ่งออกกำลังกายได้อีกด้วย

วัดโกรกกราก ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับพระอุโบสถ มีจำนวน 2 องค์ องค์แรกเป็นเจดีย์มุม พระอุโบสถด้านหน้า ลักษณะเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนย่อมุมไม้สิบสอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมมีกำแพงแก้วขนาดเล็กล้อมรอบ องค์ที่สองเป็นพระปรางค์สำหรับบรรจุอัฐิขนาดเล็ก ก่ออิฐถือปูน ลักษณะเป็นอาคารไม้ทรงไทย หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องสีมีชายคาปีกนกคลุมโดยรอบทั้งสี่ด้าน รองรับโครงหลังคาด้วยเสาไม้กลม ช่อฟ้าใบระกาไม้ประดับกระจก หน้าบันเรียบฝาผนังไม้ด้านหน้าและหลังมีประตูทางเข้าด้านละ 2 ประตู ด้านข้างมีหน้าต่างด้านละ 5 บาน บานประตูหน้าต่างไม้ ภายในพระอุโบสถมีฐานชุกชีประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัย ด้านหลังพระประธานมีตู้ขนาดใหญ่ ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูป ปัจจุบันด้านหน้าตู้มีทองปิดทับเต็มหมด ไม่สามารถมองเห็นภายในได้ ส่วนสาเหตุที่ต้องใส่แว่นดำนั้น เนื่องจากครั้งหนึ่งได้เกิดโรคตาแดงระบาดไปทั่วบ้านโกรกกราก การแพทย์ยังไม่เจริญ รักษากันตามมีตามเกิดแต่ก็ไม่หาย ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาองค์พระศิลาแลงกันมานาน จึงได้พากันมาบนบานศาลกล่าว ถ้าตาหายเจ็บหายแดง จะนำแผ่นทองมาปิดที่ดวงตาขององค์พระศิลาแลง ผล ปรากฏว่าตาหายแดงกันทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงได้นำแผ่นทองมาปิดที่ตาขององค์พระศิลาแลงเต็มไปหมด เดิมเป็นชุมชนชาวจีน สังเกตุได้จาก อุโบสถไม้สักหลังคาแอ่นคล้ายเก๋งจีน เสาระเบียงเฉียงออกทั้งสี่ด้าน บริเวณด้านหน้ามีเจดีย์สององค์ มีเรือสำเภาจีนสร้างด้วยคอนกรีต องค์ละ 1 ลำ ลักษณะคล้ายกับ เรือสำเภาจีนของวัดยานนาวา กรุงเทพ ฯ แต่เล็กกว่า กาลต่อมาได้สูญหายไปหมดแล้วเหลือแต่องค์เจดีย์ ในจดหมายเหตุ การเสด็จประพาสต้น ของสมเด็จกรมพระยาดำรงค์ราชานุภาพ ก็ปรากฏชื่อวัดโกรกกรากอยู่ด้วย คือเมื่อวันที่ 30 เดือน กรกฎาคม พ.ศ.2448 เรือพระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จอดเทียบท่าวัดโกรกกราก เมื่อครั้งเสด็จประพาสต้นที่ล่องเรือมาจากบ้านแหลม จ.เพชรบุรี แวะซื้ออาหารที่บ้านท่าฉลอม และมาแวะทำอาหารที่ศาลาท่าน้ำ โดยท่านสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ขึ้นมาบนวัดเพื่อให้พระรดน้ำมนต์ เนื่องจากเมาเรือ

แมกไม้ชายเลน ร้านอาหารแมกไม้ชายเลน ตั้งอยู่ในตำบลกาหลง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร บรรยากาศในร้านร่มรื่น เป็นธรรมชาติ ท่ามกลางป่าชายเลน มีบ่อเลี้ยงปูขนาด 20 ไร่ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเมนูขึ้นชื่อที่ห้ามพลาดเลยก็ว่าได้ เพราะมีราคาไม่แพง และอาหารสดมาก นอกจากนี้เมนูอื่นๆในร้านก็รับลองความอร่อยและสุขภาพดีที่ไม่มีผงชูรส

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำตำลึงนายเอก ร้านก๋วยเตี๋ยวรสชาติเด็ด ต้มเเซ่บ เกาเหลา รสจัดจ้าน เนื้อหมูเป็นแบบหมูหมัก รสชาติดี เกี๊ยวกรอบ กรอบอร่อย หมูสะเต๊ะ กลิ่นหอม รสชาตินุ่มลิ้น เปิดบริการทุกวัน ตั้งเเต่เวลา 07.00 - 19.00 น. สไตล์การเเต่งร้านเป็นแนวย้อนยุคนิดๆ เมนูเด็ด ขนมถ้วย , ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ , กระดูกเล้งต้มแซ่บ , ลอดช่องวัดเจษ , ข้าวต้มกระดูกอ่อน

ที่พัก สมุทรสาคร ราคาถูก 1. อาร์ ออร์คิด (R-Orchid) ที่พักราคาประหยัด ห้องพักกว้างขวาง อยู่สบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ตู้เย็น เคเบิ้ลทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น กาเฟ น้ำดื่ม สบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัว ราคา 641 บาท  2. คอนโดน้ำเพชร มหาชัย (Nampetch Condominium) ที่พักที่ได้รับการออกแบบในสไตล์คอนโดมีเนียม อยู่หลังพอร์โต้ ชิโน  และภายในมีห้องพักมีเฟอร์นิเจอร์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีลานจอดรถที่สะดวกสบายและปลอดภัย ราคา 900-1,000 บาท   3. ดิ วัน เพลส มหาชัย (The One Place Mahachai) ที่พักในรูปแบบอพาร์ทเม้น ทุกห้องได้รับการตกแต่งให้ดูมีความหรูหรา น่าอยู่ ที่พักแห่งนี้ยังตั้งอยู่ใกล้ใจกลางแหล่งธุรกิจของจังหวัดสมุทรสาครอีกด้วย ราคา 1,400-1,600 บาท 4. โรงแรมเซ็นทรัลเพลส (Central Place Hotel) โรงแรมหรูในสมุทรสาคร มีห้องพักที่ได้รับการตกแต่งให้ท่านสัมผัสได้ถึงความโรแมนติค รวมห้องนั่งเล่นที่เป็นส่วนตัว พบกับบรรยากาศที่อบอุ่น สะอาด  และบริการครบครันทุกความต้องการ ราคา 1,500-4,000 บาท

ลานเท มหาชัย มากกว่า 61 โต๊ะ สามารถจอดรถได้ที่ลานจอดรถ ลานเทมหาชัย ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวมหาชัย ใกล้กรมหลวงชุมพร บรรยากาศดี ซึ่งสามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำท่าจีนได้อย่างสบาย ๆ|ยามเย็นมองแสงไฟที่ตกกระทบน้ำ ทำให้อาหารมื้อนั้นมีความพิเศษมากขึ้น บริการอาหารทะเลสด สะอาด ใหม่ทุกวัน ราคาไม่แพง พร้อมการบริการที่เป็นกันเอง

ลุงหมูเมืองทอง N/A

ครัวโบแดง ภัตตาคารอาหารที่มีบรรยากาศในสวน ตั้งอยู่ที่ถ.นรราชอุทิศ เมนุแนะนำคือ ซี่โครงหมูอบยอดผัก

วัดใหญ่จอมปราสาท วัดใหญ่จอมปราสาท เป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในสมัยนั้นบริเวณด้านหน้าของวัดเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ มีฐานะเป็นเมืองท่าตลาดริมน้ำมีพ่อค้าจากทางทะเล และพ่อค้าจากเมือง ที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินมาติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันอย่างเนืองแน่น ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าชาวจีน ดังนั้นจึงได้เรียกชุมชนนี้ว่า "บ้านท่าจีน" ปัจจุบันน้ำได้เซาะตลิ่งพังเข้าไปจนถึงบริเวณด้านหน้าวัด ทำให้พื้นที่ของชุมชนบ้านท่าจีนรุ่นแรกๆ ถูกทำลายล่มลงแม่น้ำจนหมด 

วัดช่องลม วัดช่องลม ตั้งอยู่ตรงปากอ่าวสมุทรสาคร ตำบลท่าฉลอม ตรงข้ามกับตัวเมือง เดินทางโดยทางหลวงหมายเลข 35 เลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 35 เข้าถนนสุทธิวาตวิถีประมาณ 3 กิโลเมตร วัดช่องลมเป็นพระอารามหลวงได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ด้านหน้าวัดมีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประดิษฐานอยู่ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินท่าฉลอม และทรงตั้งเป็นสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย นอกจากนี้บริเวณวัดยังมีพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่ชาวสมุทรสาครสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี หลวงปู่แก้ว ( พระเทพสาครมุนี ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าอาวาสวัดสุทธิวาตวราราม ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครประวัติ พระเทพสาครมุนี เดิมชื่อ แก้ว ชนสุวรรณ เกิดวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๔๖๖ ณ ตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดพระตะบอง ซึ่งขณะนั้นเป็นอาณาจักรประเทศไทย และได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดใกล้บ้านคือ วัดจำบกมาศ ตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดพระตะบอง  

วัดโคกขาม วัดโคกขาม ตั้งอยู่ริมคลอง เป็นวัดเก่าแก่มีบริเวณกว้างขวาง มีท่าเทียบเรือให้ขึ้นชมได้ สิ่งที่น่าชมในวัดนี้คือ พระอุโบสถหลังเก่าด้านหน้ามีพระเจดีย์เก่าที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม สถาปัตยกรรมการก่อสร้างศิลปะแบบอยุธยา ลวดลายการแกะสลักไม้ที่หน้าบันนั้นงดงาม นอกจากนั้นที่วัดนี้ยังเก็บโบราณวัตถุที่เล่ากันว่าเกี่ยวพันกับเรื่องของพันท้ายนรสิงห์ไว้หลายอย่าง เช่น ชิ้นส่วนของเรือพระที่นั่งเอกชัย และศาลเพียงตาของเดิม เป็นต้น

หมู่บ้านชาวประมงท่าฉลอม หมู่บ้านชาวประมงท่าฉลอม เป็นตำบลใหญ่เรียกว่า ตำบลท่าฉลอม เป็นเขตสุขาภิบาลแห่งแรกในประเทศไทย มีผู้ประกอบอาชีพประมงเป็นจำนวนมาก มีตลาดและกิจการต่อเรือที่ตั้งเรียงรายอยู่บนฝั่งแม่น้ำท่าจีน

นากุ้งนาเกลือ นากุ้งนาเกลือ เขตอำเภอเมืองสมุทรสาคร มีชายฝั่งทะเลที่เหมาะกับการทำนาเกลือนากุ้งหลายแห่ง โดยเฉพาะที่ตำบลกาหลง นาโคก บ้านบ่อ บางโทรัด โคกขาม พันท้ายนรสิงห์ และบริเวณ 2 ข้างทางสายธนบุรี ปากท่อ ต่อเขตจังหวัด สมุทรสงคราม และมีนาเกลือ มีเกลือกองสีขาว มีนกหลายชนิดบินผ่านไปมา มีกังหันวิดน้ำเข้านาเกลือหมุนเล่นลม เป็นทัศนียภาพที่สวยงาม ผู้คนที่ใช้เส้นทางสายนี้สัญจรไปมามักหยุดชมอยู่เสมอ

แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำท่าจีน เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่สุดของจังหวัดสมุทรสาคร ต้นแม่น้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาทไหลผ่านจังหวัดสุพรรณบุรีจังหวัดนครปฐม แล้วไหลลงสู่อ่าวไทยที่ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร มีความยาวโดยประมาณคือ 325 กิโลเมตร  แม่น้ำท่าจีนมีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อ ตอนไหลผ่านจังหวัดชัยนาท เรียกกันว่า แม่น้ำมะขามเฒ่า ตอนผ่า่นจังหวัดสุพรรณบุรี เรียกว่า แม่น้ำสุพรรณบุรี ตอนผ่านนครปฐมเรียกว่า นครชัยศรี เป็นต้น

วัดนางสาว วัดนางสาว ประวัติความเป็นมาของวัดมีเรื่องเล่ากันว่า เมืองสาครบุรี คือ เมืองชายทะเลตอนใต้ของกรุงศรีอยุธยา เมื่อเกิดสงครามในพม่าชาวไทยกลุ่มหนึ่งได้อพยพหนีมาตามริมแม่น้ำท่าจีน คนชราและผู้หญิงได้พากันไปหลบซ่อนในโบสถ์เก่า ต่อมาคนไทยได้ช่วยกันต่อสู้กับทหารพม่าจนได้รับชัยชนะ และผู้ที่อพยพมาได้ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนั้น ในกลุ่มนี้มีสองพี่น้องที่เคยอาศัยโบสถ์หลบหนีภัย ทั้งสองมีความคิดที่จะบูรณะโบสถ์ใหม่ แต่พี่สาวเห็นว่าโบสถ์ทรุดโทรมมากจึงไปสร้างวัดใหม่แทน น้องสาวต้องการทำตามสัจจาธิษฐานของตนว่าถ้ารอดตายจะบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ จึงดำเนินการบูรณะจนเสร็จและตั้งชื่อว่า "วัดพรหมจารีย์" ต่อมาชาวบ้านเรียกว่า "วัดน้องสาว" จนปัจจุบันเพี้ยนมาเป็น "วัดนางสาว"  โบราณสถานที่สำคัญของวัดนี้ คือ โบสถ์ที่มีฐานโค้งเป็นรูปเรือสำเภาก่ออิฐ มีประตูเข้าออกเพียงประตูเดียวชาวบ้านเรียกว่า "โบสถ์มหาอุด" หลังคามุงกระเบื้องดินเผาแบบเก่า ขื่อข้างบนใช้ไม้ซุงทั้งต้น มีเสมาคู่เป็นหินทรายขนาดเล็กอยู่รอบๆ โบสถ์ นอกจากนี้บริเวณหน้าวัดซึ่งติดกับแม่น้ำท่าจีน ยังมีอุทยานมัจฉาประกอบด้วยฝูงปลาสวายจำนวนมากอาศัยอยู่ นักท่องเที่ยวนิยมมาให้อาหารแก่ฝูงปลาและเที่ยวชมอยู่เสมอ  

เทศกาลปลาทูอร่อยที่ท่าฉลอม นางสาวอังคณา พุ่มผกา ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม (สมุทรสงคราม นครปฐม สมุทรสาคร) เปิดเผยว่า ในปีนี้กลุ่มพลังสตรีท่าฉลอมได้ปรุงเมนูปลาทูรสเด็ดมากมายไว้คอยบริการนักชิมและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานได้มาลิ้มลองกัน เช่น น้ำพริกปลาทู ปลาทูชุบแป้งทอด ปลาทูทอดกระเทียมพริกไทย ปลาทูต้มพริกไทยกระเทียม ยำปลาทู ปลาทูย่าง ปลาทูเปรี้ยวหวาน กระทงทองปลาทู ซาลาเปาไส้ปลาทู ส้มตำปลาทู เป็นต้น นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมการล่องเรือชมปากอ่าว และป่าชายเลน นั่งรถรางชมเมือง ชมวิถีชีวิตของชาวท่าฉลอมสุขาภิบาลหัวเมืองแห่งแรกของประเทศไทย การแสดงนักเรียนสังกัดเทศบาลนครสมุทรสาคร เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จาก 32 ชุมชน ชมมหรสพต่างๆทุกค่ำคืนตลอดการจัดงาน และในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553 ขอเชิญนักท่องเที่ยวร่วมลอยกระทงบริเวณริมเขื่อนวัดช่องลม อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงได้ เช่น วัดช่องลม วัดนักบุญอันนา และอุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งจะจัดงานนมัสการพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่าฉลอม ระหว่างวันที่ 19 23 พฤศจิกายน 2553 อีกด้วย

บ้านคุ้งน้ำรีสอร์ท