มานาเด้อ มานาเด้อ คาเฟ่กลางทุ่งนา จุดเช็คอินที่มีบรรยากาศดีกับทุ่งท้องนาสีเขียวขจีที่ชุ่มชื่นชุ่มฉ่ำ เรียกว่าเชิญชวนมาสูดอากาศทีมีไอธรรมชาติกับบรรยากาศแบบบริสุทธิ์ พร้อมทั้งถ่ายรูปชิคๆได้ที่นี่ การตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์ลอฟท์ พร้อมทั้งมีสะพานไม้ที่ทอดยาวตามทางบนผืนนา นอกจากนี้ยังมีศาลานั่งพักกับตาข่ายสำหรับนั่งชิลล์ๆ ผ่อนคลายดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่าลืมดื่มด่ำกับเมนูอาหารอร่อยๆ ที่มีมีเมนูเครื่องดื่ม เมนูของหวานชมวิวไปพลางๆกันด้วย

ร้านสบายใจ อาหารเวียดนาม ร้านสบายใจ อาหารเวียดนาม เป็นร้านเจ้าดังอาหารเวียดนามรสต้นตำรับในอุบล ที่คนท้องถิ่นนิยมกิน เมนูอาหารเวียดนามมีเมนูให้เลือกหลากหลาย ร้านสะอาด อาหารอร่อย ราคาไม่แพง มีลูกค้าหลายๆท่านที่เอ่ยปากบอกประทับใจรสชาติ​อาหารเวียดนามร้านนี้ รวมถึงคนท้องถิ่นก็ยังแนะนำ

ก๋วยจั๊บ ประเทือง ก๋วยจั๊บประเทือง ก๋วยจั๊บเวียดนามรสชาติดั้งเดิม ที่เปิดมายาวนาน เป็นร้านอาหารเวียดนาม ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี สำหรับก๊วยจั๊บร้านนี้น้ำซุปกลมกล่อม และยังมีเส้นให้เลือกทาน ไม่ว่าจะเป็น เล็ก กลาง ใหญ่ มาม่า และยังมีให้เลือกใส่ กระดูกหมู น้องไก่ ตีนไก่ และไข่ หรือจะใส่รวมทุกอย่างก็ตามใจชอบ ราคาก็ถูกไม่เกินร้อย 

ตายายชมทุ่งคาเฟ่ทุ่งนา ตายายชมทุ่งคาเฟ่ทุ่งนา เป็นคาเฟ่ที่มีค่าบริการในการเข้าชมเพียงคนละ 10 บาทเท่านั้น เป็นคาเฟ่ที่อยู่กลางธรรมชาติที่สดใสเขียวขจี วิวดีกลางทุ่งนาและทุ่งดอกไม้ที่บานเต็มสวน ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ แล้วหาที่นั่งชิวๆ พร้อมกับดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ทานอาหารพื้นเมือง และเติมน้ำตาลด้วยของหวานอีกมากมายที่มีให้เลือก และพลาดไม่ได้ที่จะต้องมองหามุมถ่ายรูปสวยๆที่ทางร้านจัดเตรียมไว้เพื่อคุณลูกค้าที่เข้ามาแวะเวียนเยี่ยมชมกัน 

ร้านอาหาร ป โภชนา อุบล ร้านอาหาร ป.โภชนา บริการอาหารทะเล และกุ้งเผา มีบริการรับจัดเลี้ยงสังสรรค์ รองรับการสำรองที่นั่ง สำหรับอาหาร สด สะอาด รสชาติดี คุ้มค่า อร่อยถูกปากใครหลายๆคน ราคาอาหารก็ไม่แพง พนักงานของทางร้านน่ารักและบริการดี

ร้านอาหารโฮมคำ อุบล ร้านอาหารโฮมคำ ตั้งอยู่ที่ริมเขื่อนสิรินธร อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เรื่องของอาหารสามารถสั่งแบบระบุรสชาติที่เราทานได้ ส้มตำเด็ด เมนูปลาก็สดใหม่ อาหารอร่อย ที่รับกับบรรยากาศเป็นส่วนตัว เงียบสงบกับบรรยากาศริมเขื่อน ที่ร่มรื่น เย็นสบาย พนักงานบริการดีเป็นกันเอง มีบริการห้องเช่าหรือเต้นท์เช่ารวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่พร้อมบริการเสมอ 

ร้านอาหารคาเฟ เดอ โขง ร้านอาหารคาเฟ เดอ โขง : Cafe de Khong Restaurant เป็นร้านอาหารที่่อยู่ภายในโรงแรมทอแสงโขงเจียม ร้านเปิดแบบ Open Air ให้ได้รับลมเย็นๆจากริมแม่น้ำ พร้อมมองเห็นวิวริมฝั่งโขง พนักงานของทางร้านบริการดี ถือว่าเป็นช่วงมื้ออาหารที่อาจจะทำให้คุณประทับใจไปกับการเพลิดเพลินในทุกๆด้าน

แพลำโขง แพลำโขง เป็นร้านแพริมน้ำ ตั้งอยู่ในอำเภอโขงเจียม อาหารสด สะอาด ใส่ช้อนกลางมาให้ทุกจาน รสชาติอหารอร่อย และมีบรรยากาศก็สวยงามตามฉบับร้านอาหารริมน้ำและลมเย็นๆ อากาศดี มีราคาอาหารกลางๆไม่แพงมากนัก  มีที่จอดรถ​ มีห้องน้ำบนแพ

99 ก๋วยจั๊บรสแซ่บ 99 ก๋วยจั๊บรสแซ่บ ร้านก๋วยจั๊บญวนรสเด็ด ประจำจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่ติดกับถนนพิชิตรังสรรค์ ความอร่อยของเด็ดก็ต้องยกให้ก๋วยจั๊บญวน ที่มีน้ำซุปกลมกล่อม ที่มาแล้วห้ามพลาด เพราะอร่อยแบบไม่ต้องปรุงกันเลยทีเดียว อีกทั้งเส้นที่เหนียวนุ่ม กับเหล่าบรรดาเนื้อสัตว์ ที่สามารถเลือกได้ ต้ม ตุ๋นจนเปื่อยมาอย่างดี มีไข่ให้เลือกสองแบบ คือ ไข่ไก่ หรือ ไข่นกกระทา และร้าน 99 เป็นร้านดั้งเดิม เปิดด้วยชื่อจากที่เจ้าของร้านนั่งรถสาย 99 มาที่อุบล ก็เลยเป็นชื่อร้านจนถึงทุกวันนี้ ที่เปิดมากว่า 20 ปีแล้ว

ผาชะนะได ผาชะนะไดเป็นหน้าผาที่สูงและโดดเด่นภายในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตั้งอยู่ในเขตอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีความสูงประมาณ 300–400 เมตรจากระดับน้ำทะเลและสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงและประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างชัดเจน บริเวณผาชะนะไดเต็มไปด้วยป่าดิบแล้งและพันธุ์ไม้ท้องถิ่น มีสัตว์ป่าและนกหลายชนิดอาศัยอยู่ เส้นทางเดินขึ้นไปยอดผาได้รับการปรับปรุงให้ปลอดภัยต่อผู้มาเยือน แม้จะมีความชันบ้าง แต่สามารถเดินได้ในระยะทางสั้น ๆ ประมาณ 1–2 กิโลเมตร ผาชะนะไดยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอุทยาน เพราะสามารถเห็นแสงสีทองสะท้อนกับแม่น้ำโขงในยามเช้าได้อย่างงดงาม นักท่องเที่ยวมักมาเยือนช่วงเช้าเพื่อหลีกเลี่ยงแดดแรงและถ่ายภาพวิวธรรมชาติ อุทยานยังมีกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ และมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังสามารถชมโขดหินและธารน้ำเล็ก ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเสน่ห์ของภูมิประเทศในพื้นที่

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่เรียกกันว่า “วัดเรืองแสง” ตั้งอยู่บนภูพร้าว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากตัวเมืองประมาณ 70 กิโลเมตร วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยพระครูปัญญาวรคุณ เจ้าอาวาสรูปแรก มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและเผยแผ่พระพุทธศาสนา อุโบสถของวัดสร้างด้วยศิลปะผสมผสานระหว่างล้านช้างกับไทยร่วมสมัย หลังคาโค้งซ้อนชั้นอย่างวิจิตร ตั้งอยู่บนเนินสูงหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ทำให้ผู้มาเยือนสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินและทัศนียภาพของแม่น้ำโขงกับฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน สิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้วัดคือภาพวาดต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงด้านหลังอุโบสถ ซึ่งใช้สีเรืองแสงชนิดพิเศษ เมื่อถึงเวลากลางคืนโดยเฉพาะคืนเดือนมืด ภาพจะเปล่งแสงสีเขียวมรกดงดงามราวกับต้นไม้แห่งชีวิตกำลังส่องสว่าง จนกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ Unseen Thailand ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว รอบ ๆ วิหารยังมีลวดลายเรืองแสง เช่น เถาวัลย์ ดอกไม้ และสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นเมื่อแสงไฟส่องกระทบ ทำให้ยามค่ำคืนของวัดแห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางศิลปะที่แปลกตา ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นที่สักการบูชา รอบวัดยังมีศาลา เจดีย์ และพื้นที่พักผ่อนสำหรับผู้แสวงหาความสงบ ทำให้วัดแห่งนี้เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามและศูนย์รวมจิตใจสำหรับการปฏิบัติธรรม บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ร่มรื่นด้วยธรรมชาติ เหมาะแก่การทำสมาธิ อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็น ท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีและสายน้ำโขงที่ทอดยาวช่วยเพิ่มความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาในช่วงบ่ายแก่ ๆ เพื่อชมความงามของพระอาทิตย์ตก และรอจนค่ำเพื่อชมความงามของต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานความงดงามทางศิลปะ ความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรม ความเงียบสงบทางธรรมชาติ และความศรัทธาทางจิตวิญญาณไว้อย่างลงตัว

หาดหงส์ หาดหงส์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงในเขตอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นหาดทรายขาวเล็ก ๆ ที่มีความงดงามตามธรรมชาติและสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน เล่นน้ำ และชมวิวแม่น้ำโขงโดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก ซึ่งทำให้หาดแห่งนี้เป็นจุดชมวิวธรรมชาติยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ หาดหงส์มีความผูกพันกับชุมชนท้องถิ่นมายาวนาน โดยชาวบ้านใช้พื้นที่หาดและแม่น้ำเป็นแหล่งอาศัยและทำมาหากิน ดั้งเดิมเป็นพื้นที่สำหรับจับปลาและเก็บทรัพยากรน้ำจืดต่าง ๆ รวมถึงเป็นที่จัดกิจกรรมประเพณีทางน้ำ เช่น การลอยกระทง และพิธีกรรมทางศาสนาพุทธบางอย่างในพื้นที่ริมน้ำโขง ชื่อ “หาดหงส์” มีตำนานเกี่ยวกับฝูงหงส์ที่เคยอพยพมาพักผ่อนในบริเวณหาด เป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบและความงดงามของธรรมชาติ หาดหงส์อยู่ในพื้นที่ริมน้ำโขงตอนใต้ของอำเภอโขงเจียม มีความยาวประมาณ 1-2 กิโลเมตร บริเวณโดยรอบเป็นป่าพื้นถิ่นและทุ่งน้ำตื้นที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำโขง พื้นที่หาดและริมน้ำถือเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติเล็ก ๆ เพื่อป้องกันการกัดเซาะของดินและรักษาความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ บริเวณรอบหาดมีไม้ยืนต้นและไม้พุ่มหลากหลายชนิด เช่น ไม้ไผ่ เต็ง รัง ประดู่ และไม้ดอกป่าหลากสี พื้นที่ริมน้ำเป็นแหล่งอาศัยของนกน้ำหลายชนิด เช่น นกนางนวล นกกระสา และนกกางเขน รวมถึงสัตว์เล็กเช่น กระรอก ลิง และสัตว์น้ำพื้นถิ่น แม่น้ำโขงเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ มีปลาน้ำจืดหลายชนิดที่ชาวบ้านจับเพื่อบริโภคและเป็นรายได้ หาดทรายขาวและโขดหินเล็ก ๆ ตลอดแนวแม่น้ำช่วยลดการกัดเซาะของดินและสร้างทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นริมหาด พักผ่อน ปิคนิค หรือถ่ายภาพธรรมชาติได้ตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง น้ำใสและระดับน้ำตื้น เหมาะแก่การเล่นน้ำอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ บริเวณรอบหาดยังมีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์และทำกิจกรรมสันทนาการริมแม่น้ำ หาดหงส์จึงถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีคุณค่า ทั้งในด้านความงดงาม ระบบนิเวศ และวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยวจึงควรร่วมรักษาความสะอาด และเคารพกฎระเบียบในการใช้พื้นที่ เพื่อให้ธรรมชาติแห่งนี้ยังคงอยู่ให้คนรุ่นต่อไปได้ชม

หาดชมดาว หาดชมดาว ตั้งอยู่ในเขตอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นพื้นที่แก่งหินขนาดใหญ่กลางลำน้ำโขงที่โผล่พ้นน้ำในช่วงฤดูแล้ง (ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน) ชื่อ "หาดชมดาว" มาจากการที่พื้นที่นี้เปิดกว้างและท้องฟ้าสดใสในยามค่ำคืน เหมาะแก่การนอนชมดวงดาว อีกทั้งยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในตอนกลางวัน พื้นที่แห่งนี้ได้รับฉายาว่า “สามพันโบกน้อย” เพราะลักษณะของโขดหินและแอ่งน้ำคล้ายกับสามพันโบกในอำเภอโพธิ์ไทร แต่มีขนาดเล็กกว่า จุดเด่นอยู่ที่ร่องรอยการกัดเซาะของแม่น้ำโขงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานหลายพันปี จนทำให้หินทรายเกิดเป็นหลุม แอ่งน้ำ และลวดลายธรรมชาติ บางหลุมมีน้ำขังตลอดปี และบางแอ่งมีสีเขียวมรกตเมื่อกระทบแสงแดด การศึกษาทางธรณีวิทยาพบว่าหินทรายในพื้นที่นี้มีอายุหลายล้านปี และเป็นส่วนหนึ่งของชั้นหินโคราช (Khorat Group) ซึ่งเป็นชั้นหินตะกอนที่พบมากในภาคอีสาน การกัดเซาะเกิดจากแรงน้ำและตะกอนทรายในแม่น้ำโขงที่หมุนวนเป็นเวลานาน ทำให้เกิดรูปร่างแปลกตา เช่น รูปหัวใจ รูปสัตว์ หรือรูปร่างที่ผู้คนตีความต่าง ๆ กันไป ในฤดูน้ำหลาก พื้นที่หาดชมดาวจะถูกน้ำโขงท่วมจนมองไม่เห็นโขดหิน ทำให้ฤดูแล้งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเที่ยวชม นอกจากการเดินสำรวจบนลานหิน นักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งเรือหางยาวเพื่อชมทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงและแก่งหินในระยะใกล้ บรรยากาศโดยรอบหาดชมดาวยังคงความเงียบสงบ มีเพียงเสียงน้ำไหลและลมพัด เหมาะแก่การพักผ่อนและถ่ายภาพวิวธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงาม โดยแสงแรกของวันจะสะท้อนผิวน้ำโขงและโขดหิน สร้างภาพที่น่าประทับใจแก่ผู้มาเยือน ชุมชนรอบ ๆ หาดชมดาวยังคงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวลุ่มน้ำโขง เช่น การหาปลา การทำประมงพื้นบ้าน และการปลูกพืชตามฤดูกาล นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความเป็นกันเองของคนในพื้นที่ และลิ้มรสอาหารท้องถิ่น เช่น ปลาน้ำโขงย่าง แจ่วบอง และต้มส้มปลาโขง ด้วยความงดงามทางธรรมชาติและคุณค่าทางธรณีวิทยา หาดชมดาวจึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดอุบลราชธานี

10 ที่พัก อุบลราชธานี ราคาถูก 1. โรงแรม ดุสิตา ปาร์ควิว (Dusita Parkview Hotel) อ.เมือง โรงแรมที่ได้รับการออกแบบทั้งเพื่อธุรกิจและเพื่อการพักผ่อน ตั้งอยู่ในตัวเมืองอุบลราชธานี บริการห้องพักราคาสบายกระเป๋า และโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ สนามบินอุบลราชธานี อีกด้วย  ราคา 650-750 บาท    2. โรงแรมฮ็อป อินน์ อุบลราชธานี (Hop Inn Ubon Ratchathani) อ.เมือง โรงแรมตัังอยู่ในเมืองอุบลราชธานี บริการห้องพักทั้งในแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ทุกห้องได้มีการตกแต่งได้อย่างลงตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน ราคา 550 บาท    3. เบทเทอร์ เพลส (Better Place Hotel) อ.เมือง ที่พักราคาประหยัดในเมืองอุบลราชธานี บริการห้องพักในราคาประหยัด มีการตกแต่งอย่างทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้อย่างครบครัน  ราคา 450-600   4. โรงแรม พฤกษา รีสอร์ท เดชอุดม (Pruksaresort Hotel Detudom) อ.เดชอุดม รีสอร์ทที่ให้บริการห้องพักสุดหรูออกแบบในสไตล์ไทยๆ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ ใบหญ้า บรรยากาศอันรื่นรมย์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและที่จอดรถส่วนตัวฟรี ราคา 550 บาท   5. โรงแรมเป็นตาฮัก (Pen Ta Hug Hotel) อ.เมือง โรงแรมให้บริการห้องพักอยู่สบาย กว้างขวาง โดยห้องพักแต่ละห้องมีการตกแต่งในรูปแบบที่ไม่ซ้ำกัน เหมาะแก่การมาพักผ่อนอย่างยิ่ง ราคา 800 บาท   6. สุภาวดีหมอเส็งรีสอร์ท (Supawadee Morseng Resort) อ.นาตาล รีสอร์ทที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติอยู่รอบตัว มีการจัดสรรดอกไม้ ต้นไม้ให้ชมและแต่ละหลังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นรีสอร์ทที่เหมาะสำหรับพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวหรือเทศกาล ราคา 800-2,500 บาท   7. แลโขง ริเวอร์ รีสอร์ท (Lae Khong River Resort) อ.เขมราฐ รีสอร์ทที่มีการตกแต่งอย่างทันสมัย ห้องพักอยู่สบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักอย่างครบครัน และยังมีฟรีวายฟาย บริการซักรีด ราคา 800 บาท   8. วี โฮเทล อุบลราชธานี (V Hotel Ubon Ratchathani) อ.เมือง ที่พักสไตล์โมเดิร์นบริการห้องพักที่เเพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ตู้เย็น เคเบิ้ลทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น กาเฟ น้ำดื่ม สบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัว ราคา 800-1,500 บาท   9. โรงแรมเอ็กเซลล่า (Excella Hotel) อ.เมือง โรงแรมในเมืองอุบลราชธานี ได้รับการตกแต่งทั้งภายในโรงแรมและภายในห้องพักอย่างหรูหรา น่าอยู่ เหมาะแก่การพักผ่อนในวันหยุดสุดพิเศษ ราคา 890-1,590 บาท   10. อุบลบุรี โฮเทล (Ubon Buri Hotel) อ.วารินชำราบ โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุบลราชธานี สะดวกสบายในการติดต่อธุรกิจหรือเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยว มีการตกแต่งที่หรูหราคลาสิค กลมกลืนกับความทันสมัยเพื่อสร้างความประทับใจ ในทุกนาทีแห่งการพักผ่อน ราคา 1,150-3,500 บาท

จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็กตั้งอยู่ในตำบลช่องเม็ก อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นด่านถาวรที่เชื่อมระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีบทบาทสำคัญทั้งด้านการค้าชายแดน การขนส่งสินค้า และการอำนวยความสะดวกให้ผู้เดินทางข้ามประเทศ ด่านนี้ถือเป็นหนึ่งในจุดผ่านแดนหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ บริเวณด่านประกอบด้วยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร และจุดตรวจสอบเอกสารการขนส่งสินค้าต่าง ๆ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ที่จอดรถ ร้านค้า ร้านอาหาร และจุดบริการข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางไปฝั่งลาว ทำให้ผู้ที่เดินทางมาที่ด่านสามารถวางแผนการเดินทางและพักผ่อนได้อย่างสะดวก ด้านการค้า จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็กเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าพาณิชย์ระหว่างไทยและลาว โดยมีการตรวจสอบและเก็บภาษีตามประเภทสินค้าอย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนรอบด่านให้เติบโต นอกจากนี้ยังมีตลาดริมด่านที่ขายสินค้าพื้นเมือง งานหัตถกรรม และอาหารท้องถิ่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ในด้านการท่องเที่ยว จุดผ่านแดนช่องเม็กเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังฝั่งลาวเพื่อเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ เช่น เมืองปากเซ น้ำตกหลี่ผี น้ำตกตาดฟาน และเส้นทางชมธรรมชาติของลุ่มแม่น้ำโขง นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นของทั้งสองฝั่งชายแดน ทำให้ด่านช่องเม็กเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญระหว่างการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม นอกจากนี้ ด่านช่องเม็กยังมีบทบาทด้านความปลอดภัยและการรักษาความสงบเรียบร้อยในการขนส่งสินค้าและผู้เดินทาง โดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและลาวร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบเอกสาร และควบคุมการจราจรระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ทำให้ผู้เดินทางมั่นใจในความปลอดภัย ด้วยบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยว จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็กไม่เพียงแต่เป็นจุดเชื่อมระหว่างสองประเทศ แต่ยังเป็นศูนย์กลางที่ช่วยพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้มีรายได้ สร้างงาน และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนสองฝั่งชายแดน

ประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานีได้กำหนดจัดพิธีอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมกุมารี ซึ่งพิธีอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน ทางชลมาร์ค มีเส้นทางจากศาลากลางจังหวัดไปประทับเรือที่หน้าวัดหลวงและขึ้นฝั่งที่ท่า วัดสุปัฎนารามวรวิหารเพื่อนำเทียนพรรษาพระราชทานและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทานไป สมโภชน์และนำถวายที่วัดศรีอุบลรัตนาราม ในวันต่อไป สำหรับพิธีอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานและ ผ้าอาบน้ำฝนพระราชทานทางชลมาร์ค ประกอบด้วยขบวนเรือ 50 ลำ ระหว่างทางมีการเห่เรือท่วงทำนองอีสานโดย ศิลปินแห่งชาติ ป.ฉลาดน้อย ส่งเสริม นับเป็นพิธีที่หาชมได้ที่อุบลราชธานีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น การทำบุญถวายเทียนพรรษาเป็นกิจกรรมที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจของประเพณีบุญเข้า พรรษาโดยพุทธศาสนิกชนจะนำเทียนพรรษาผ้าอาบน้ำฝน และเครื่องใช้ที่จำเป็นอื่น ๆ ไปถวายพระสงฆ์ตามวัดใกล้บ้านเพื่อสืบสานงานบุญและเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง กิจกรรมนี้ผู้มาเยือนสามารถศึกษาชื่นชมและร่วมกิจกรรมได้ตามวัดทั่ว ๆ ไป เวลา 08.30 น. พิธีเปิดโดย นายอิสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นประธาน และชมขบวนแห่เทียนพรรษาอันวิจิตรอลังการ ประกอบไปด้วย ขบวนเทียนโบราณ เทียนแกะสลัก เทียนติดพิมพ์ กว่า70 ต้นซึ่งเป็นการตกแต่งของชุมชนจากคุ้มวัดต่าง ๆ ของจังหวัดอุบลราชธานีแสดงถึงความหลอมใจ หลอมเทียน หลอมบุญ พร้อมการแสดงพื้นเมืองอันเป็นเสน่ห์ที่แตกต่าง เวลา 11.00น. 12.00 น. ถวายเทียนพรรษาพระราชทานและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน ณ วัดศรีอุบลรัตนาราม เป็นการแสดงขบวนวัฒนธรรมพื้นถิ่นประกอบแสงเสียงเชื่อมโยงกับวิถี ชีวิต ความเชื่อของคนอีสานผ่านงานต้นเทียนของคุ้มวัดต่าง ๆ ทั้งแบบแกะสลักและติดพิมพ์ ซึ่งปีนี้จัดเพิ่ม 2 คืน คือวันที่ 26 27 กรกฎาคม 2553 ณ ถนนอุปราชหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 0 4524 3770

ร้านอินโดจีน ร้านอาหารเวียตนามแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเส้นเดียวกับวัดแจ้งแต่จะเลยจากวัดไปอีกเล็กน้อย ร้านค้าจะมีอยู่ 2 ร้าน,โดยร้านหนึ่งจะเปิดช่วงกลางวัน ส่วนอีกร้านจะเปิดช่วงเย็นเป็นต้นไปจนถึง เวลาค่ำ ลักษณะ เป็นร้านห้องแถว 2 คูหา สไตล์เก่าโบราณ สองชั้น ชั้นบน แบ่งเป็น สองส่วน คือ ห้องอาหาร และห้องโถงแสดงของเก่าสะสม เช่น เจกัน หีบไม้เก่าๆ ฯลฯ   อาหารแนะนำ ปอเปียญวน (เมี่ยง) สด และทอด แหนมเนือง กุ้งพันอ้อย เนื้อย่างใบชะพลู ก๋วยจั๊บญวน หมูยอ ร้านอินโดจีน เป็น ร้านอาหารที่คนญวนมาเปิดจริงๆ ในสมัยก่อนสงครามเวียดนาม ในสมัยก่อนคนไทยไม่คุ้นกับอาหารญวน ก็เลยชวนกันมาทานจน ติดอกติดใจ ทางร้านก็ขายดีต่อมาจนถึงทุกวันนี้

ก๋วยจั๋บญวน ก๋วยจั๊บญวนหรือข้าวเปียกญวน ไม่ใช่ก๋วยจั๋บที่เรารู้จักกัน แต่คล้ายกันตรงที่เป็นก๋วยเตี๋ยวเหมือนกัน เป็นเส้นคล้ายขนมจีนหรือสปาเก็ตตี้ ลักษณะน้ำใสข้น คล้ายก๋วยจั๊บหรือข้าวต้ม เพียงแต่เปลี่ยนจากข้าวเป้นเส้นข้าวเปียก

น้ำตกแสงจันทร์ น้ำตกลงรู น้ำตกแสงจันทร์ หรือเรียกอีกชื่อว่า น้ำตกลงรู ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของประเทศไทยที่มีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนใคร จุดเด่นของน้ำตกแห่งนี้คือสายน้ำที่ไหลตกลงมาผ่านช่องวงกลมบนเพดานหินทราย ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะตามธรรมชาตินานนับพันปี เกิดเป็น “รูหิน” ที่น้ำไหลทะลุตกลงมาเบื้องล่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ ช่วงที่น้ำไหลลงรูและแสงส่องลอดผ่านพอดี ทำให้ภาพที่เห็นงดงามเหมือนแสงจันทร์สาดลงมาจากฟ้า น้ำตกแห่งนี้มีความสูงประมาณ 20 เมตร ล้อมรอบด้วยโขดหินและต้นไม้เขียวชอุ่ม อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การมานั่งพักผ่อน ถ่ายภาพ หรือเดินป่าศึกษาธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงต้นมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำพอเหมาะ ทำให้เห็นน้ำตกชัดเจนและสวยงามที่สุด บริเวณทางเดินเข้าน้ำตกจะมีทางเดินป่าระยะสั้นประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นเส้นทางธรรมชาติที่ไม่ชันมาก แต่ควรสวมรองเท้าหุ้มส้นที่ยึดเกาะพื้นดี เพราะบางจุดอาจลื่น โดยเฉพาะในฤดูฝน สำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัยแบบเบา ๆ หรือการตั้งแคมป์ใกล้ชิดธรรมชาติ สามารถเลือกพักแรมในพื้นที่ใกล้เคียงของอุทยานได้ โดยมีลานกางเต็นท์และสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานไว้ให้บริการ น้ำตกแสงจันทร์ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่สนใจถ่ายภาพธรรมชาติ เนื่องจากแสงที่ตกกระทบละอองน้ำผ่านรูหินนั้นให้ภาพที่สวยแปลกตาไม่ซ้ำใคร จนได้รับการขนานนามว่า “น้ำตกลงรูหนึ่งเดียวในไทย” และกลายเป็นจุดเช็กอินสำคัญของอุบลราชธานีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ แม้น้ำตกจะมีความงดงาม แต่ไม่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ เนื่องจากบริเวณด้านล่างเป็นโขดหินและน้ำไหลแรงในบางช่วง ผู้มาเยือนควรระมัดระวัง โดยเฉพาะหากมีเด็กเล็กมาด้วย นอกจากนี้ควรเตรียมน้ำดื่มและของใช้ส่วนตัวให้พร้อม เพราะบริเวณน้ำตกไม่มีร้านค้าหรือสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

น้ำตกทุ่งนาเมือง น้ำตกทุ่งนาเมือง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี เป็นน้ำตกที่มีความงดงามท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ โดยสายน้ำตกไหลมาจากลำห้วยเล็ก ๆ บนภูเขาสูง ไหลลดหลั่นลงมาตามหน้าผาหินที่มีลักษณะโค้งเว้าเป็นชั้น ๆ จนเกิดเป็นม่านน้ำโปรยปรายลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง สร้างบรรยากาศเย็นสบายและสดชื่น เหมาะแก่การพักผ่อนคลายร้อน บริเวณโดยรอบน้ำตกยังคงมีผืนป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณที่อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด เช่น ยางนา ตะแบก เต็ง รัง และไม้ไผ่ รวมทั้งพันธุ์ไม้พื้นถิ่นหายากที่ขึ้นอยู่ตามโขดหินและริมห้วย เมื่อถึงฤดูฝน น้ำตกทุ่งนาเมืองจะมีน้ำไหลแรงและสวยงามเป็นพิเศษ ม่านน้ำสีขาวสะท้อนกับแสงแดดยามเช้าและบ่าย กลายเป็นภาพธรรมชาติที่น่าประทับใจ นักท่องเที่ยวมักนิยมมาเล่นน้ำ พักผ่อน และถ่ายภาพบรรยากาศโดยรอบ แอ่งน้ำด้านล่างของน้ำตกเป็นน้ำใสสะอาด มีความตื้นและลึกต่างกัน เหมาะแก่การลงเล่นน้ำในบางจุด นอกจากนี้ยังมีลานหินกว้างที่สามารถนั่งพักผ่อนหรือจัดกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างเพลิดเพลิน เสียงน้ำตกกระทบหินผสานกับเสียงนกป่าและแมลงในป่า สร้างความรู้สึกสงบและเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง ความหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นควบคู่กับน้ำตกทุ่งนาเมืองก็คือ เถาวัลย์ยักษ์อายุกว่า 400 ปี ที่ขดเป็นเกลียวใหญ่แปลกตาอยู่ตรงมุมหนึ่งของน้ำตก กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมักไม่พลาดเก็บไว้เป็นที่ระลึก ความยิ่งใหญ่และอายุยาวนานของเถาวัลย์นี้ถือเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่อยากลงเล่นน้ำ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากในแอ่งน้ำมีโขดหินจำนวนมากและคม ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้น น้ำตกทุ่งนาเมืองจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาชมความงดงามของธรรมชาติสุด Unseen และบันทึกภาพความประทับใจ มากกว่าการลงเล่นน้ำโดยตรง ในด้านนิเวศวิทยา น้ำตกทุ่งนาเมืองยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ทั้งนกเขา นกกางเขน นกหัวขวาน รวมถึงสัตว์เล็กอย่างกระรอก ลิง และผีเสื้อหลากสีที่มักบินโฉบไปมาตามชายป่า ช่วงฤดูฝนยังพบดอกไม้ป่าและเห็ดชนิดต่าง ๆ ขึ้นตามเส้นทางเดินป่า ทำให้การมาเยือนเต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติในทุกย่างก้าว เส้นทางเดินทางสู่น้ำตกมีการจัดทำทางเดินเท้าและป้ายบอกทางชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะสั้นเพื่อเข้าชมน้ำตกได้ ซึ่งตลอดเส้นทางยังมีจุดชมวิวป่าเขาและลำห้วยเล็ก ๆ ที่ไหลลดหลั่นลงมาตามโขดหิน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าและการผจญภัยเบา ๆ น้ำตกทุ่งนาเมืองจึงไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังเป็นสถานที่เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศและความสมดุลของสิ่งแวดล้อมในอุทยานแห่งชาติ ผู้มาเยือนจะได้ทั้งความเพลิดเพลิน ความสดชื่น และแรงบันดาลใจจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอุบลราชธานี