สตรีทอาร์ต ร้อยเอ็ด สตรีทอาร์ต ร้อยเอ็ด (Street Art Roi-Et) ตั้งอยู่บริเวณถนนคูเมือง ทางทิศตะวันตก สตรีทอาร์ตสุดฮิป ที่มีความยาวที่สุดในอีสาน โดยมีระยะทางรวมประมาณ 200 เมตร  โดดเด่นสะดุดตาด้วยลวดลายกราฟิตี้สุดแนว และยังสะท้อนมุมมองความคิดของความเป็นร้อยเอ็ดอีกด้วย ผลงานสร้างสรรค์โดยเกล่าศิลปินกว่า 50 ท่าน ทั่วภูมิภาคของไทย สวยงาม มีเอกลักษณ์ ช่วยสร้างความคึกคักและเป็นสีสันอีกแห่งหนึ่งให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส ถ่ายรูปเล่นเพลินๆ 

[1312/0][2022-06-30]

ร้านผาไม้งาม ร้านผาไม้งาม ตั้งอยู่ที่ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด เป็นร้านอาหารไทยพื้นบ้านอีสาน บรรยากาศเรียบง่าสบายๆ หลังคาสูงร้านทำจากไม้ เปิดโล่งรับลม และร่มรืนด้วยต้นไม้รอบๆ มีเมนูให้เลือกรับประทานหลากหลาย ร้านไม่เล็กไม่ใหญ่ สามารถรองรับนักท่องเที่ยว นักเดินทางได้มาก ราคาอาหารไม่แพง เหมาะสม บริการดี

[457/0][2022-06-27]

หอโหวด 101 หอโหวด101 หรือ หอชมเมืองรูปทรงโหวด ตั้งอยู่ที่ถนนข้าวหอมมะลิ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ในกลางเมือง หน้าบึงพลาญชัย ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2560 แล้วเสร็จวันที่ 16 มีนาคม 2565 โดยมีความสูงอยู่ที่ 101 เมตร ภายในอาคารมีจำนวนพื้นที่ใช้สอยจริง 12 ชั้น จากทั้งหมด 35 ชั้น เช่น จุดชมวิวและสกายวอล์คจะอยู่ที่ชั้น 34 สามารถชมทัศนียภาพได้แบบ 360 องศา นอกจากนั้น ยังมีมีร้านอาหารจำหน่าย , สินค้าที่ระลึก เป็นของฝากติดไม้ติดมือ เช่น ดอกอินทนิลบก ดอกไม้ประจำจังหวัด ส่วนพื้นที่ชั้น 35 เป็นพื้นที่ประดิษฐานพระพุทธมิ่งเมืงมงคล พระพุทธรูปประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นมากราบไหว้ เป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดร้อยเอ็ด   พื้นที่ต่างๆภายในอาคาร พื้นที่อาคารชั้นที่ 1 ลานจัดกิจกรรมรอบอาคาร ส่วนสำนักงานโครงการ ห้องควบคุมต่างๆ พื้นที่อาคารชั้นที่ 2 โถงจัดแสดงนิทรรศการชั่วคราวจุดถ่ายภาพ และร้านค้าขายสินค้าพื้นเมืองของจังหวัดร้อยเอ็ด ห้องน้ำ พื้นที่อาคารชั้นที่ 3 ร้านขายของที่ระลึกสินค้าพื้นเมือง ร้านกาแฟ พื้นที่อาคารชั้นที่ 4 ร้านอาหาร ชมทัศนียภาพ พื้นที่อาคารชั้นที่ 28 ร้านฟิตเนส พื้นที่อาคารชั้นที่ 29 ร้านขายอาหารว่าง ไอศกรีม และเครื่องดื่ม ชมวิวทิวทัศน์เมืองร้อยเอ็ด พื้นที่อาคารชั้นที่ 30-31 ร้านอาหาร พื้นที่ชมวิวทิวทัศน์เมืองร้อยเอ็ดแบบ 360 องศา (ภายใน) พื้นที่อาคารชั้นที่ 32 ชมทิวทัศน์ งานระบบและห้องพักเจ้าหน้าที่ พื้นที่อาคารชั้นที่ 33 พิพิธภัณฑ์เมืองร้อยเอ็ด แสดงเรื่องราวเมืองร้อยเอ็ดในด้านต่างๆ พื้นที่อาคารชั้นที่ 34 พื้นที่ชมวิวทิวทัศน์เมืองร้อยเอ็ดแบบ 360 องศา (ภายนอก) พื้นที่อาคารชั้นที่ 35 พื้นที่ประดิษฐานพระพุทธมิ่งเมืองมงคล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัดร้อยเอ็ด

[1784/0][2022-06-27]

อมรหอยทอด ร้านอมร หอยทอด จังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ร้านอาหารเก่าแก่ประจำเมืองร้อยเอ็ด มีเมนูอาหารหลากหลาย ไม่เฉพาะแค่หอยทอดเท่านั้น สำหรับหอยทอด ที่ขึ้นชื่อเพราะรสชาติที่ถูกปาก โดยเฉพาะแป้งหอยทอดที่กรอบมาก หอยสดไม่ควาอาหารอร่อย ราคาไม่แพง บริการดี  

[398/0][2022-06-27]

ข้าวต้มคนเห็น สาขา2 ร้านข้าวต้มคนเห็น สาขา2 ตั้งอยู่บนถนนเทวาพิบูล อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ร้านข้าวต้ม เมนูหลากหลาย เช่น ปลาทับทิมทอดน้ำปลา, ผัดผักบุ้งไฟแดง, ต้มหัวปลา, ต้มแซ่บกระดูกอ่อน, พะโล้รวม เป็นต้น รสชาติดี ราคาไม่แพง พนักงานบริการดี รวดเร็วทันใจ สามารถจอดรถได้ริมถนน

[875/0][2022-06-27]

ครัวเอื้อยน้อย กม 101

[561/0][2018-01-09]

ที่พัก ร้อยเอ็ด ราคาถูก 1. บ้านนันทิยา รีสอร์ท (Baan Nantiya) รีสอร์ทราคาประหยัด บรรยากาศร่มรื่น อบอุ่นด้วยการบริการของพนักงาน พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องและภายในรีสอร์ทที่มีให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น  ตู้เย็น เคเบิ้ลทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น กาเฟ บริการซักรีด ฟรีWi-Fi  ราคา 650-1,000 บาท   2. โรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้น (Petcharat Graden Hotel) โรงแรมในเมืองร้อยเอ็ดที่เน้นราคาถูกพร้อมบริการหรูระดับ 5 ดาว บนพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีห้องประชุมขนาดใหญ่ และยังมีมีบริการ สระว่ายน้ำกลางแจ้งทันสมัย ห้องอาหาร ห้องจัดเลี้ยง ฟรี WiFi  ราคา 800-2,080 บาท   3. โรงแรมไหมไทย (Maithai Hotel) โรงที่ได้รับการออกแบบทั้งเพื่อธุรกิจและเพื่อการพักผ่อน ตั้งอยู่ในตัวเมืองร้อยเอ็ด ด้วยทำเลที่สะดวกสบายของโรงแรม สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้ง่าย  ราคา 800 บาท   4. เดอะ แคปิตอล โฮเต็ล (The Capital Hotel)  โรงแรมโมเดิร์นสไตล์ ทำเลดี บริการห้องพักสุดหรู กว้างขวาง สะอาด อยู่สบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน และมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด24 ชั่วโมง ราคา 850-1,500 บาท   5. ร้อยเอ็ด ซิตี้ โฮเทล (Roi-et City Hotel)  โรงแรมชั้นหนึ่งมาตรฐานสากล ให้ท่านได้สัมผัสกับความสุขอย่างเต็มที่ไปกับวันพักผ่อน มีห้องพักให้เลือกสรรหลากหลายรูปแบบและภายในห้องพักก้เพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน  ราคา 1,200-3,360 บาท

[1007/0][2015-07-14]

งานวันข้าวหอมมะลิโลก จังหวัดร้อยเอ็ดกำหนดจัดงาน วันข้าวหอมมะลิโลกขึ้นในวันที่ 1 2 ธันวาคม 2553 เพื่อสร้างความสำคัญและส่งเสริมแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ ตราสัญลักษณ์สินค้าของจังหวัดร้อยเอ็ด ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เพื่อเป็นการระดมแนวความคิดของผู้ที่มีส่วนได้เสียในการพัฒนาการผลิต การแปรรูป การตลาดข้าวหอมมะลิทั้งระบบ และให้เป็นการส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์จังหวัดร้อยเอ็ด ขับเคลื่อนปีส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2553 วันที่1 ธันวาคม 2553 กิจกรรมการแสดง พิธีบวงสรวงพระแม่โพสพ รำเคียวเกี่ยวข้าว แสดงวิถีชุมชนในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ ขบวนแห่บุญเบิกฟ้า ขบวนฮีต 12 คอง 14 ขบวนข้าวกระยาสาร์ท ขบวนบุญคูณลานข้าว ขบวนบุญบั้งไฟ แข่งขัน การตำส้มตำ การจัดสำรับอาหารข้าวมันส้มตำ การหุงข้าวด้วยหม้อดิน การตำข้าวด้วยมือ(ครกมือ) การเป่าโหวด การนวดข้าวด้วยมือ การแข่งขันสิ่งประดิษฐ์จากข้าวหอมมะลิ การประกวด ขบวนแห่สวยงาม ธิดาข้าวหอมมะลิโลก ประกวดข้าวหอมมะลิบรรจุถุง ข้าวหอมมะลิทั้งเปลือกหรือรวงข้าว การแปรรูปผลผลิตจากข้าวหอมมะลิ เวชเครื่องสำอางข้าวหอมมะลิ การจัดนิทรรศการข้าวหอมมะลิโลก จำหน่ายข้าวหอมมะลิ กิจกรรมการแสดงของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร กลางคืนเริ่มเวลา 18.00น. มีกิจกรรมพาแลง การแสดงแสง สี เสียง บริเวณกลางบึงพลาญชัย วันที่ 2 ธันวาคม 2553 กิจกรรมการประชุมสัมมนาวิชาการและเจราจาธุรกิจ ณโรงแรมเพชรรัตน์การ์เด้น เยี่ยมชมสินค้าตัวอย่างเจรจาซื้อขาย การประชุมวิชาการ “อนาคตข้าวหอมมะลิไทยสู่ครัวโลก” โดย ผู้ประกอบการโรงสีข้าวระดับประเทศ การเจรจาจับคู่ธุรกิจข้าว คาดมีเงินสะพัดเกือบพันล้านบาท นักท่องเที่ยวที่สนใจมาสัมผัสมหัศจรรย์ทุ่งรวงทอง ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ร้อยเอ็ด ท่านจะได้สัมผัสมนต์เสน่ห์วิถีชีวิตแบบชนบท ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ ที่หมู่บ้านท่องเที่ยว Home Stay บ้านกู่กาสิงห์ อ.เกษตรวิสัย กินข้าวแลงที่กู่กาสิงห์ ปราสาทโบราณสถาน สัมผัสกับบรรยากาศเป็นกันเอง เรียบง่าย สุข สนุก สามัคคี ห่วงใย เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน หาสัมผัสได้ยากมากในยุคสังคม สัมผัสวัฒนธรรมประเพณีลงแขก เกี่ยวข้าว ตีข้าว นวดข้าว เป่าโหวด และการท่องเที่ยววัดในตัวเมือง รุ่งเรืองตลอดชีวิตโดยการให้บริการรถรางของสภาวัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด และ อบจ.ร้อยเอ็ด บริการนำเที่ยวฟรี ภายใน 1 วัน และทำบุญตักบาตรหน้าโรงพยาบาลร้อยเอ็ดได้ทุกวัน

[1988/2][2015-05-29]

ร้อยเอ็ด ซิตี้ โฮเทล ร้อยเอ็ด ซิตี้  Roiet City Hotel  ตั้งอยู่ที่ 78 ถ.เพลินจิต ต.ในเมือง อ.เมือง โรงแรมตกแต่งสไตล์เรียบง่ายให้บริการห้องพัก 167 ห้องพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก เครื่องปรับอากาศ อินเตอร์เน็ตไร้สาย เคเบิ้ลทีวี ห้องน้ำส่วนตัว สิ่งอำนวยความสะดวกของที่พัก  ห้องฟิตเนส  สปา  บริการนวด  สระว่ายน้ำ  ที่จอดรถ  บริการรถรับ-ส่งถึงสนามบิน ร้านอาหาร  คอฟฟี่ช็อป ตู้นิรภัย พนักงานต้อนรับ          

[3570/0][2015-05-29]

ประเพณีบุญผะเหวดจังหวัด ร้อยเอ็ด ประเพณีบุญผะเหวดจังหวัด ร้อยเอ็ด ช่วงเวลาวันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคมความสำคัญบุญผะ เหวด หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า บุญมหาชาติ เป็นประเพณีบุญตามฮีตสิบสอง ของชาวอีสาน แต่ถ้าถือเป็นเรื่องทาน ก็เป็นประเพณีการบริจาคทานครั้งยิ่งใหญ่ ก็พอจะอนุมานได้ถึงสภาพทั่วไป ของชาวอีสานว่า ดอกจิก ดอกจาน บานราวต้นเดือน ๓ พุทธศาสนิกชนจะเก็บดอกไม้เหล่านี้ มาร้อยเป็นมาลัยเพื่อตกแต่งศาลาการเปรียญสำหรับบุญมหาชาติและในงานนี้ก็จะมี การเทศน์มหาชาติ ซึ่งถือว่าเป็นงานอันศักดิ์สิทธิผู้ใดฟังเทศน์มหาชาติจบภายในวันเดียว และบำเพ็ญคุณงามความดี จะได้อานิสงส์ไปเกิดในภพหน้าพิธีกรรมชาวอีสาน จะจัดทำบุญผะเหวด ปีละ ๑ ครั้ง ระหว่างเดือน ๓ เดือน ๔ ไปจนถึงกลางเดือน ๕ จังหวัดร้อยเอ็ด จะจัดประเพณีบุญผะเหวดในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคมทุกปี โดยจะมีวันรวมตามภาษาอีสาน เรียกว่า วันโฮมบุญ พุทธศาสนิกชนมาช่วยกันจัดตกแต่งศาลาหรือสถานที่ที่จะทำบุญ จัดเตรียมเครื่องสักการะ ดอกไม้ ธูปเทียน ข้าวตอก อย่างละพันก้อน มีการตั้งธงใหญ่ ไว้แปดทิศ และมีศาลเล็กๆ เป็นที่เก็บข้าวพันก้อน และเครื่องคาวหวาน สำหรับ ผี เปรต และมารรอบๆ ศาลาการเปรียญจะแขวนผ้าผะเหวด เป็นเรื่องราวของพระเวสสันดร ตั้งแต่กัณฑ์ที่ ๑ ถึงกัณฑ์สุดท้าย การจัดงานบุญผะเหวด หรือ งานเทศน์มหาชาตินิยมที่อัญเชิญพระอุปคุต มาปกป้องคุ้มครองมิให้เกิดเหตุเภทภัยอันตรายทั้งปวง และให้โชค ลาภแก่พุทธศาสนิกชนในการทำบุญมหาชาติ จึงมีการแห่พระอุปคุต ซึ่งสมมุติว่า อัญเชิญมาจาก สะดือทะเลสาระบุญผะ เหวด หรืองานบุญมหาชาติ คืองานมหากุศล ให้รำลึกถึงการบำเพ็ญบุญ คือ ความดีที่ยิ่งยวด อันมีการสละความเห็นแก่ตัวเพื่อผลคือ ประโยชน์สุขอันไพศาลของมวลชนมนุษย์ชาติ เป็นสำคัญ ดังนั้น บรรพชนชาวไทยอีสานแต่โบราณ จึงถือเป็นเทศกาลที่ประชาชนทั้งหลายพึงสนใจร่วมกระทำบำเพ็ญ และได้อนุรักษ์สืบทอดเป็นวัฒนธรรมสืบมา จนถึงอนุชนรุ่นหลังที่ควรเห็นคุณค่าและอนุรักษ์เป็นวัฒนธรรมสืบไปนอกจากนี้ยังเป็นการสังสรรค์ ระหว่างญาติพี่น้องจากแดนไกลสมกับคำกล่าวที่ว่า "กินข้าวปุ้น เอาบุญผะเหวด ฟังเทศน์มหาชาติ" ข้อมูลจากthai.tourismthailand.org

[1540/0][2015-05-29]

ประเพณี สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป ททท. ชวนสัมผัสประเพณีโบราณเมืองสาเกตนคร “ สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป ” เมื่อฤดูน้ำหลากเวียนมาถึง ในคืนวันเพ็ญเดือน 12 ความศรัทธาในพระแม่คงคาของชาวนครสิบเอ็ดประตูเมืองงาม “สาเกตนคร” หรือเมือง “ร้อยเอ็ด” ก็ปรากฏให้เห็นผ่านวิถีการขอขมาและระลึกถึงบุญคุณของมารดาแห่งสายน้ำ ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านงานบุญประเพณีโบราณที่ชาวเมืองได้ยึดถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ประเพณี “สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป” เป็นอีกหนึ่งงานประเพณียิ่งใหญ่ของจังหวัดร้อยเอ็ด อันมีความสำคัญและเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา “สมมาน้ำ” หมายถึง การขอขมาแม่น้ำ “คืนเพ็ง” หมายถึง วันเพ็ญ “เส็ง” หมายถึง การประกวดแข่งขัน และ “ประทีป” หมายถึง กระทง เมื่อแปลจากภาษาถิ่นแล้ว ความหมายโดยรวมจึงหมายถึง ประเพณีขอขมาน้ำในคืนวันเพ็ญและการแข่งขันประกวดกระทง โดยประเพณีนี้ยังถือเป็นการบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกวิธีหนึ่ง โดยอาศัยสายน้ำเป็นสื่อนำพากระทงดอกไม้ธูปเทียนไปสักการะบูชาพระพุทธเจ้าอีกด้วย นายนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) สำนักงานขอนแก่น เปิดเผยว่า งานประเพณี “สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป” ประจำปีนี้ มีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20 21 พฤศจิกายน 2553 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์และบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด กิจกรรมที่น่าสนใจภายในงานประกอบด้วย การประกวดกระทงประทีปใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี การประกวดกระทงอนุรักษ์ธรรมชาติ ขบวนแห่กระทงประทีป 12 หัวเมืองตามตำนานเมืองร้อยเอ็ด การประกวดรำวง และการประกวดธิดาสาเกตนคร ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานขอนแก่น ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนักท่องเที่ยวผู้มาเที่ยวชมจะได้อิ่มเอมกับความหลากหลายของกิจกรรมต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว ยังสามารถสัมผัสกับเอกลักษณ์และบรรยากาศของเมืองสาเกตนคร ผ่านการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น บึงพลาญชัย บึงขนาดใหญ่กลางเมือง มีทัศนียภาพสวยงาม เป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองซึ่งขุดพบเมื่อครั้งที่มีการขุดลอกบึงพลาญชัยในอดีต หรือไปชมบ่อน้ำพิพัฒน์สัตยาใต้สระน้ำเก่าแก่ภายในหอพระไตรมิ่งเมือง วัดบึงพระลานชัย ( พระอารามหลวง ) และอีกแห่งหนึ่งซึ่งไม่ควรพลาดการเที่ยวชมคือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติร้อยเอ็ด ซึ่งเดิมเป็นพิพิธภัณฑ์ประจำเมืองที่จัดแสดงศิลปหัตถกรรมอีสาน โดยเฉพาะผ้าไหมและผ้าพื้นเมือง ปัจจุบันนับเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในความดูแลของกรมศิลปากร นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถใช้บริการรถพ่วงนำเที่ยวนั่งชมเมืองร้อยเอ็ด หรือเดินทางไปสักการะและชมความวิจิตรงดงามของ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ที่อำเภอหนองพอก ซึ่งเป็น 1 ใน 5 พระธาตุ ตามเส้นทาง “ไหว้พระธาตุอีสาน 4 เมือง รุ่งเรืองตลอดชีวิต” ที่จะให้อานิสงส์เสริมมงคลให้ชีวิตท่วมท้นชัยชนะอีกด้วย ในช่วงเทศกาลแห่งการขอขมาและระลึกถึงพระคุณของพระแม่คงคาที่ใกล้จะมาถึงนี้ งานประเพณี “สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป” ณ เมืองสาเกตนคร จะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่รอต้อนรับผู้มาเยือนด้วยวิถีอีสานที่อบอุ่นและงดงาม

[777/0][2015-05-29]

แม็คโคร ร้อยเอ็ด

[1335/0][2015-05-29]

สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด เป็นสวนสาธารณะเฉิลพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด  เปิดเมื่อปี พ.ศ. 2529  มีเนื้อที่ประมาณ 225 ไร่ บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด มีต้นไม้ใหญ่คอยให้ความร่มรื่น และยังมีหอนาฬิกากลางเมืองที่เด่นเป็นสง่า  ภายในมีที่สำหรับอ่านหนังสือไว้สำหรับบริการประชาชน และเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลและพิธีการต่างๆ

[2870/0][2015-05-29]

วัดกลางมิ่งเมือง วัดกลางมิ่งเมือง ตั้งอยู่บนเนินในเมือง เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานด้วยว่าก่อนตั้งเมืองร้อยเอ็ด ส่วนอุโบสถสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ในอดีตเคยใช้เป็นสถานประพิธีถือ น้ำพิพัฒน์สัตยา ปัจจุบันเป็นสถานที่ศึกษาปริยัติธรรม และสถานสอมธรรมสถาน ชื่อโรงเรียนสุนทรธรรมปริยัติ บริเวณผนังรอบพระอุโบสถมีภาพวาดจิตรกรรม เกี่ยวพระพุทธประวัติ สวยงาม และมีทางศิลปะ ฮังผึ้ง ที่สิมวัดกลางมิ่งเมืองนี้นับเป็นส่วนเด่นและมีคุณค่ายิ่งของสิมหลังนี้  ประกอบไปด้วยฮังผึ้ง สามแผง อยู่ระหว่างสามช่วงเสา แกะสลักลายก้านขด เถาดอกไม้ มีดอก ใบ บนก้านที่ขดไปมา เกี่ยวกันอย่างงดงาม 

[3173/0][2015-05-29]

วัดสระทอง ร้อยเอ็ด วัดสระทอง เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระสังกัจจายน์ เป็นพระพุทธรูปที่ชาวร้อยเอ็ดให้ความเคารพสักการะ พระยาขัตติยะวงษา (ท้าวธน) เป็นเจ้าเมืองร้อยเอ็ด ได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ จึงได้นำมาประดิษฐานที่วัดสระทองและให้เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง อดีตข้าราชการทุกคนที่ได้รับตำแหน่งต้องมาสาบานตนต่อหน้าหลวงพ่อว่าจะซื่อสัตย์ต่อบ้านเมือง ประวัติความเป็นมาของ วัดสระทอง เดิมมีชื่อว่า วัดศรีมงคล จากหลักฐานก็คือ มีชื่อเกี่ยวกับการตั้งโรงเรียนขึ้นในจังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งแรกเมื่อปี พุทธศักราช 2543 ได้ตั้งโรงเรียนขึ้นที่วัดศรีมงคล เปิดสอนหนังสือแก่เด็กนักเรียน โดยมีพระภิกษุสามเณรในวัดศรีมงคล เป็นครูสอน เท่าที่มีชื่อปรากฎก็คือ พระครูวินัยธรรส พระภิกษุสิงห์ สุวรรณบล พระภิกษุพิม์ สุวรรณบลและสามเณรผ่อง จรัสฉาย ขณะนั้นมีนักเรียน 20 คน วิชาที่สอนได้แก่ วิชาภาษาไทย และเลขคณิต สถานที่สอนใช้วิหารหลวงพ่อสังกัจจายน์ ต่อมาพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว. เปีย มาลากุล) เสนาบดีกระทรวงธรรมการสมัยนั้นได้ให้จังหวัดต่าง ๆ ตั้งโรงเรียนรัฐบาลขึ้นเพื่อให้การศึกษาแก่กุลบุตรกุลธิดา จึงส่งราชบุรุษจันทร์ อุตตมพรหม ขั้นมาเป็นครูคนแรกของจังหวัดร้อยเอ็ดและได้ไปสอนโรงเรียนวัดศรีมงคลโดยยกฐานะโรงเรียนขึ้นเป็นโรงเรียนรัฐบาลประจำจังหวัด วัดสระทองที่เปลี่ยนชื่อจาก วัดศรีมงคล ตั้งแต่เมื่อใดนั้นสันนิฐานกันว่าคงจะเปลี่ยนหลังจากย้ายโรงเรียนไปจากวัด ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดสระทอง คงจะเป็นการเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานที่ตั้งวัด เพราะที่ตั้งวัดสระทองชาวบ้านเรียกสระในวัดว่าสระทอง ในตัวเมืองร้อยเอ็ดมีสระชื่อต่าง ๆ หลายสระ เช่น สระทอง สระแก้ว สระดู่ สระสิม สระขวาง สระบัว ปัจจุบันสระต่าง ๆ ชาวบ้านก็ยังเรียนขานกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำในสระทอง สระแก้ว ถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ในราชพิธีต่าง ๆ ทางราชการก็ได้นำน้ำจากสระดังกล่าวนี้ไปทำพิธีเพื่อความศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิริมงคล

[3418/0][2015-05-29]

วัดบูรพาภิราม วัดบูรพาภาราม ตั้งอยู่ที่ถนนผดุงพานิช ตำบลในเมือง ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ใครที่มาถึงตัวเมืองร้อยเอ็ดคงได้พบกับภาพที่ตื่นตาขององค์พระเจ้าใหญ่ หรือพระพุทธรัตนมงคลมหามุนี ประทับยืนเด่นเป็นสง่ามองเห็นได้ระยะไกล องค์พระเจ้าใหญ่นั้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบูรพาภิราในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด อันเป็นที่เคารพเลื่อมใสของอยเอ็ด ซึ่งแสดงถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอันแรงกล้าของชาวเมืองที่ได้สร้างพระ พุทธรูปปางประทานพรที่กล่าวกันว่าสูงที่สุดในประเทศไทย พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือพระเจ้าใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2516 องค์พระนั้นสร้างขึ้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ความสูงขององค์พระ วัดจากพระบาทถึงยอดเกศสูงถึง 59 เมตร 20 เซนติเมตร และมีความสูงทั้งหมด 67 เมตร 85 เซนติเมตร ที่ฐานพระพุทธรูปองค์นี้มีห้องที่ใช้ในศาสนกิจและห้องพิพิธภัณฑ์จำนวนหลายห้อง

[4351/0][2015-05-29]

วนอุทยานผาน้ำย้อย ผาน้ำย้อย ตั้งอยู่ที่ บ้านโคกกลาง ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผาหินขนาดใหญ่ ซึ่งมีน้ำไหลตกและซึมตลอดปีอยู่บนภูเขาเขียว บ้านโคกกลาง ตำบลโคกสว่าง มีเนื้อที่ป่ารอบๆ บริเวณหน้าผาพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ เป็นป่าไม้เนื้อแข็งนานาชนิด นับเป็นป่าที่มีค่าและหายากยิ่ง มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด เช่น หมูป่า เก้ง กวาง ไก่ป่า ฯลฯ ผาน้ำย้อยอยู่สูงจากระดับพื้นดินประมาณ 200 เมตร และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 380-500 เมตร

[5510/1][2015-05-29]

พระมหาเจดีย์ ศรีชัยมงคล พระมหาเจดีย์ศรีชัยมงคล ออกแบบโดยศิลปกร มีลักษณะเป็นสีขาว ตกแต่งลวดลายตระการตาด้วยสีทองเหลืองอร่าม มีเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ล้อมรอบ ตั้งอยู่บริเวณวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วราราม ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด มีลักษณะเป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ที่วิจิตรพิสดาร ใช้ศิลปะกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสานเป็นการผสม กันระหว่าง พระปฐมเจดีย์และพระธาตุพนม ซึ่งในงบการในการสร้างกว่า 3,000 ล้านบาท ดำเนินการสร้างโดย พระอาจารย์ศรี มหาวิโร

[5171/0][2015-05-29]

สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดี ร้อยเอ็ด สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดี  เป็นโครงการสวนพฤกษศาสตร์ในวรรณคดีประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติดงมะอี่ ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 85 กม.มีเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ เป็นเนื้อที่สำหรับปลูกต้นไม้แบ่งตามวรรณคดี เช่น เรื่องพระเวสสัดรลิลิตพระลอ ลิลิตตะเบงพ่าย ลานพุทธประวัติ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรแยกตามสรรพคุณ บริเวณสวนมีสภาพภูมิประเทศสวยงาม

[2604/0][2015-05-29]

ปรางค์กู่ หรือปราสาทหนองกู่ เป็นลักษณะอาคารแบบเดียวกันเชื่อกันว่า คืออโรคยาศาลตามที่ปรากฏในจารึกปราสาทตาพรหมอันประกอบด้วย ปรางค์ประธาน บรรณาลัย กำแพงพร้อมซุ้มประตูและสระน้ำนอกกำแพง โดยทั่วไปนับว่าคงสภาพเดิมพอควร โดยเฉพาะปรางค์ประธานชั้นหลังคาคงเหลือ 3 ชั้น และมีฐานบัวยอดปรางค์อยู่ตอนบน อาคารอื่นๆ แม้หักพังแต่ทางวัดก็ได้จัดบริเวณให้ดูร่มรื่นสะอาดตา ภายในกำแพงด้านหน้าที่มุมทิศตะวันออกเฉียงใต้ยังพบโบราณวัตถุอีกหลายชิ้นวางเก็บรักษาไว้ใต้อาคารไม้ ได้แก่ทับหลังหินทราย สลักเป็นภาพบุคคลนั่งบนหลังช้างหรือวัว ภายในซุ้มเรือนแก้วหน้ากาล จากการสอบถามเจ้าอาวาสวัดศรีรัตนาราม กล่าวว่าเป็นทับหลังหน้าประตูมุขของปรางค์ประธาน เสากรอบประตู 2 ชิ้น ชิ้นหนึ่งมีภาพสลักรูปฤาษีที่โคนเสาศิวลึงค์ขนาดใหญ่พร้อมฐานที่ได้จากทุ่งนาด้านนอกออกไป และชิ้นส่วนบัวยอดปรางค์ ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นฐานของพระสังกัจจายน์ปูนปั้น

[2081/0][2015-05-29]